ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Blogger ครูมอนสอนสังคม แหล่งรวมความรู้ตามหลักสูตรกลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รวมถึงเทคโนโลยีการมอนในรูปแบต่างๆ

กลไกราคาในระบบเศรษฐกิจ

                  ตลาดในระบบเศรษฐกิจนับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากตลาดทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตกับผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยทำให้สินค้าจากแหล่งผลิตไปสู่ผู้บริโภค และยังช่วยให้ผู้บริโภคมีสินค้าและบริการมาบำบัดความต้องการได้อย่างทั่วถึง ซึ่งในบทนี้ จะศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดในทางเศรษฐศาสตร์
                

ความหมายของตลาดในทางเศรษฐศาสตร์
ตลาด หมายถึง การซื้อขายสินค้าอย่างใดอย่างหนึ่งหรือภาวะการณ์ในการซื้อขายสินค้านั้นๆ ซึ่งก็
หมายถึงว่า การซื้อขายไม่จำเป็นต้องมีตลาดเป็นตัวตน ผู้ซื้อและผู้ขายไม่จำเป็นต้องมาพบกัน เพียงแต่ใช้
เครื่องมือสื่อสารตกลงกัน (มีการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการ จะแลกด้วยสิ่งของหรือชำระด้วยเงินก็ได้)
การแบ่งประเภทของตลาด  แบ่งออกเป็น 4 ประเภท

      
1. ตามชนิดของสินค้า
            - สินค้าทางการเกษตร เช่น ตลาดค้าส่งผลไม้พืชผัก (ตลาดไท  ตลาดสี่มุมเมือง)
            - สินค้าอุตสาหกรรม เช่น โรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ อะไหล่ เครื่องมือ  (ตลาดเซียงกง-จำหน่วยอะไหล่ระยนต์มือสอง)
ตลาดค้าส่งผลไม้ตามฤดูกาล (ตลาดไท)
2. แบ่งตามลักษณะการจำหน่าย
            - ตลาดค้าส่ง  (ห้างแมคโคร  สำเพ็ง  ประตูน้ำ  โบ๊เบ๊  ปากคลองตลาด ตลาดไท)
            - ตลาดค้าปลีก  (ห้างโลตัส บิ๊กซี  คลองถม ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา   ตลาดนัดรถไฟ )
   

ปากคลองตลาด (ตลาดค้าส่งดอกไม้ใจกลางกรุงเทพ : ภาพจากอินเทอรืเน็ต)
3. แบ่งตามลักษณะการแข่งขันที่มีอยู่ในตลาด
        ตลาดแข่งขันสมบูรณ์  คือ  ตลาดที่มีการแข่งขันกันอย่างเต็มที่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
                 - มีผู้ขายจำนวนมาก
                 - lินค้าที่ขายมีลักษณะเหมือนกันทุกประการ
                 - การเข้าออกตลาดทำได้อย่างเสรี สะดวก ง่ายดาย
                 - สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเท่าเทียมกัน
                 - การค้าในตลาดไม่มีข้อได้เปรียบจากปัจจัยภายนอก
                 - กลไกราคาทำงานเต็มที่   **
         ตลาดประเภทนี้ได้แก่  ตลาดผลผลิตทางการเกษตร  ตลาดวัตถุดิบ
ตลาดสี่มุมเมือง (รังสิต) แหล่งสินค้าทางการเกษตร
        ตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์  คือ  ตลาดที่มีระดับการแข่งขันแตกต่างกัน มี 3 ประเภท

กิจการไฟฟ้า

                   ตลาดผูกขาด หมายถึง ตลาดที่มีผู้ขายเป็นผู้ผูกขาดกำหนดราคาได้เต็มที่มีลักษณะดังนี้
 
-  มีผู้ผลิตหรือผู้ขายรายเดียว
 -  ไม่สามารถหาสินค้าอื่นมาทดแทนได้
 -   การเข้าและออกจากตลาดเป็นไปได้ยาก เช่น กิจการไฟฟ้า โทรศัพท์ ประปา โรงงานยาสูบ เป็นต้น ตลาดผูกขาดไม่มีคู่แข่งด้วยสาเหตุการสัมปทาน เป็นต้น

ตลาดผู้ขายน้อยราย หมายถึง ตลาดที่มีผู้ผลิตหรือผู้ขายจำนวนน้อย มีลักษณะสำคัญ ดังนี้
- มีจำนวนผู้ผลิตหรือผู้ขายไม่มาก
- สินค้าอาจเหมือนกันหรือต่างกันก็ได้
- การเข้าและออกจากตลาดเป็นไปได้ยาก
เช่น บริษัทผลิตรถยนต์ เหมืองแร่ บริษัทน้ำอัดลม ปูนซีเมนต์ หนังสือพิมพ์

ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด หมายถึง ตลาดที่ผู้ผลิตและผู้ขายบางรายมีอำนาจในการกำหนดราคาได้บ้างในกรณีที่สามารถทำให้ลูกค้าพอใจได้เป็นพิเศษ ลักษณะของตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาดคล้ายตลาดแข่งขันสมบูรณ์แต่บางส่วนคล้ายตลาดผูกขาด
ลักษณะสำคัญมีดังนี้
- มีผู้ผลิตหรือผู้ขายจำนวนมาก
- สินค้าของผู้ผลิตแตกต่างกันแต่ใช้แทนกันได้
- การเข้าและออกจากตลาดทำได้ง่าย ไม่ถูกกีดกัน
เช่น ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ผงซักฟอก บริการซ่อมอุปกรณ์ทุกชนิด

สงครามราคา (
price war)
สงครามราคา หมายถึง   การแข่งขันกันลดราคาสินค้าอย่างรุนแรง ซึ่งมักปรากฏในตลาดผู้ขายน้อยราย เมื่อเกิดการตัดราคาอาจทำให้คู่แข่งที่อ่อนแอกว่าขาดทุนจนถึงขั้นออกจากตลาด และเหลือคู่แข่งเพียงรายเดียว เป้าหมายเพื่อกำหนดราคา (
price maker)